เมล็ดมัสตาร์ด เครื่องเทศชนิดหนึ่งได้จากเมล็ดของพืชล้มลุก

เมล็ดมัสตาร์ด  โภชนาการเพื่อสุขภาพ ข้อมูลโภชนาการมัสตาร์ด ผลดีต่อร่างกายที่มีมากยิ่งกว่าการเพิ่มรสของกิน มัสตาร์ด คุณประโยชน์ต่อร่างกายที่มีมากยิ่งกว่าการเพิ่มรสของกินมัสตาร์ด เป็นซอสที่ได้จากการนำเม็ดมัสตาร์ด มาบด ป่น หรือผสมกับเครื่องปรุงต่างๆทำให้ได้ซอสสีเหลืองที่มีรสชาติเผ็ด เปรี้ยว และก็เค็ม ในมัสตาร์ดมีสารอาหารที่สำคัญ เป็นต้นว่า ธาตุเหล็ก แคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ทั้งมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายในด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็นบางทีอาจช่วยลดน้ำตาลที่อยู่ในเลือด คุ้มครองปกป้องการได้รับเชื้อ ช่วยลดลักษณะของโรคสะเก็ดเงิน ฯลฯ

ค่าทางโภชนาการของมัสตาร์ด มัสตาร์ด เป็นซอสที่ได้จากการนำเม็ดมัสตาร์ด มาบด ป่น หรือผสมกับเครื่องปรุงต่างๆดังเช่นว่า น้ำ น้ำส้มสายชู น้ำมะนาว เกลือ รวมทั้งเครื่องปรุงอื่นๆทำให้ได้ซอสสีเหลืองที่มีรสชาติเผ็ด เปรี้ยว และก็เค็มข้างในตัว มัสตาร์ดนิยมกินร่วมกับของกิน ดังเช่น แซนวิช ฮอทด็อก แฮมเบอร์เกอร์ หรือใช้เป็นเครื่องปรุงสำหรับทำครัวอื่นๆ

มัสตาร์ดมาตรฐานที่ขายกันทั่วๆไปในจำนวน 10 กรัม จะให้พลังงานราว 9 กิโลแคลอรี่ โดยเป็นพลังงานที่ได้จากคาร์โบไฮเดรตทั้งผอง ในเวลาเดียวกันก็เป็นแหล่งสำคัญของธาตุเหล็ก แคลเซียม (Calcium) ซีลีเนียม (Selenium) และก็ธาตุฟอสฟอรัส (Phosphorus) ตอนที่ดิจองมัสตาร์ด (Dijon Mustard) บางครั้งก็อาจจะให้พลังงานมากยิ่งกว่ามัสตาร์ดธรรมดาอีกนิดหน่อย

 

คุณประโยชน์สุขภาพที่ได้จาก เมล็ดมัสตาร์ด

เป็นแหล่งสำคัญของสารต้านอนุมูลอิสระ ในมัสตาร์ดนั้นอุดมไปด้วยสารกลูวัวสิโนเลตส์ (Glucosinolates) สารประกอบในกรุ๊ปซัลเฟอร์ ซึ่งสามารถเจอได้ในในผักเชื้อสายกะหล่ำต่างๆ(Cruciferous Vegetables) อย่างเช่น กะหล่ำปลี กระหล่ำดอก บร็อคโคลี่ หรือแม้กระทั้งในมัสตาร์ด ฯลฯ สารกลูวัวสิโนเลตส์ (Glucosinolates) นี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่บางทีอาจช่วยคุ้มครองปกป้องร่างกายจากความเสื่อมโทรมของเซลล์ ช่วยต้านการอักเสบ แบคทีเรีย รวมทั้งเชื้อรา มีคุณลักษณะช่วยทำให้แผลฟื้นฟูได้เร็วขึ้น ทั้งยังยังบางทีอาจสามารถช่วยคุ้มครอง ไม่ให้เซลล์ของโรคมะเร็งเจริญวัยหรือแพร่ไปได้อีกด้วย

ยิ่งกว่านั้น ในมัสตาร์ดยังเป็นแหล่งสำคัญของสารต้านอนุมูลอิสระในกรุ๊ปฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ที่มีการวิจัยพบว่า สามารถช่วยคุ้มครองปกป้องจากโรคเรื้อรังต่างๆยกตัวอย่างเช่น โรคหัวใจ หรือเบาหวาน ฯลฯพืชมัสตาร์ดจะมีดอกท้ายที่สุดรวมทั้งไปที่เม็ด ดอกไม้ของเม็ดมัสตาร์ดโดยปกติจะมีสีเหลือง แต่ว่าบางจำพวกมีดอกสีขาว เมื่อดอกมัสตาร์ดโตแล้วก็โตสุดกำลังมันจะแปลงเป็นฝัก มองฝักพวกนี้เพื่อเริ่มกลายเป็นสีน้ำตาล สัญญาณอีกประการหนึ่งที่คุณกำลังใกล้เวลาเก็บเกี่ยวเป็นใบของพืชจะเริ่มเป็นสีเหลือง ระวังอย่าทิ้งฝักเอาไว้ในต้นเม็ดมัสตาร์ดนานเหลือเกินด้วยเหตุว่ามันจะเปิดออกเมื่อสุกเต็มกำลังและก็การเก็บเกี่ยวเม็ดมัสตาร์ดจะหายไป.

ลำดับต่อไปสำหรับเพื่อการเก็บเกี่ยวเม็ดมัสตาร์ดเป็นการเอาเม็ดออกมาจากฝัก  เมล็ดมัสตาร์ด คุณสามารถทำได้ด้วยมือของคุณหรือคุณสามารถวางหัวดอกไม้ในถุงที่ทำจากกระดาษแล้วก็อนุญาตให้พวกเขาสำเร็จการสุก ฝักจะเปิดด้วยตัวเองในหนึ่งถึงสองอาทิตย์แล้วก็เขย่าเบาๆของถุงจะสั่นเม็ดมัสตาร์ดโดยมากหละหลวม.เม็ดมัสตาร์ดสามารถประยุกต์ใช้ใหม่ได้ แม้กระนั้นเหมือนกันกับสมุนไพรแล้วก็เครื่องเทศอื่นๆแม้คุณเก็บไว้ภายในระยะยาวพวกเขาจึงควรแห้งผลในทางที่ดีและโทษของมัสตาร์ดสื่อความหมายเพราะว่าเครื่องปรุงรสนี้ถูกใช้ประโยชน์ทุกๆที่

ในการทำครัวในชีวิตประจำวันเพื่อจุดมุ่งหมายด้านการแพทย์ ในการประเมินคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ข้อแรกคุณต้องทำความรู้จักดีกับคุณสมบัติอย่างถี่ถ้วนคนทันสมัยเกือบจะไม่อาจจะจินตนาการถึงอาหารของเขาได้หากว่าไม่มีมัน เพราะมันเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของอาหารจานด่วนรวมทั้งมายองเนส และเหมาะสมมากสำหรับใช้เป็นเครื่องปรุงรสสำหรับเนื้อสัตว์ และไม่มีอะไรที่แม้แต่ส่วนที่เกินนิดหน่อยก็ทำให้ร้องไห้ จาม แล้วก็รู้สึกแสบร้อนในปากอย่างเหลืออด ทั้งหมดนี้สามารถทนต่อความแหลมคม การเผาไหม้ แม้ว่ารสที่เป็นเอกลักษณ์

สตรีที่มองรูปร่างจะรู้ดีว่ามัสตาร์ดใช้ เม็ดมัสตาร์ด สำหรับเพื่อการลดหุ่นอย่างไร – เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของการพอกตัวคุ้มครองปกป้องเซลลูไลท์รวมทั้งการอาบน้ำที่เผาผลาญไขมัน แม้ว่า มีเพียงแค่ไม่กี่คนที่สงสัยว่าการกินมันจะช่วยรีบการลดน้ำหนักซึ่งเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของการรับประทานอาหารแทบทุกชนิดเม็ดมัสตาร์ดเป็นเม็ดกลมขนาดเล็กของต้นมัสตาร์ด เม็ดมัสตาร์ดดีในองค์ประกอบจากธรรมชาติที่มีประโยชน์เยอะที่สุดที่ใช้บ่อยๆทุกวัน ไม่เฉพาะแต่ แต่มีประโยชน์ในการทำกับข้าวเท่านั้น แม้กระนั้นยังมีประโยชน์ต่อการใช้ยามา แต่ไหน ถึงแม้ว่าไร

แหล่งของสารอาหารที่อุดมไปด้วย ดังเช่นว่า เหล็กธาตุฟอสฟอรัสแมกนีเซียมสังกะสีเส้นใยแมกนีเซียมแล้วหลังจากนั้นก็แคลเซียมเม็ดมัสตาร์ดมีสารไฟโตนิวเทรียนท์ที่เรียกว่ากลูโคสิโนเลต ยิ่งไปกว่านี้ยังมีกรดอะมิโนซีสเทอีนซึ่งมีคุณสมบัติในการยับยั้งอนุมูลอิสระ สอง . เม็ดมัสตาร์ดใช้เป็นสารแต่งกลิ่นยากันบูดและแต่งรสในอาหารสลัดมายองเนสและดิป

ทำน้ำมันจากเม็ดมัสตาร์ด สังกัดจำพวกของวัตถุดิบรวมถึงกติกาการผลิตองค์ประกอบของน้ำมันอาจผิดแผกอย่างเอาจริงเอาจัง โดยวิธีการมันเป็นองค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์ที่เป็นความลับเพื่อประโยชน์ของผลิตภัณฑ์มัสตาร์ดเป็นประโยชน์ต่อสภาพทางด้านร่างกายยังไง? ตอนนี้เราจะมาดูกันว่าเครื่องเทศนี้มีผลต่อบุคคลอย่างไร แยกกันจะพิจารณาว่าอะไรได้แก่การใช้เครื่องเทศสำหรับสตรีแล้วหลังจากนั้นก็ผู้ชาย

หลายๆคนทราบว่ามัสตาร์ดสามารถปรับใช้ทำครัวได้ไม่เพียงแค่  เมล็ดมัสตาร์ด  หากแม้เป็นเครื่องปรุงรสร้อนเท่านั้น แม้กระนั้นยังคงใช้สำหรับในการรักษาและก็เสริมความงามได้อีกด้วยเนื่องจากมีคุณสมบัติที่มีสาระมากไม่น้อยเลยทีเดียว ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาเครื่องปรุงรสนี้ไม่ได้ใช้กันอย่างล้นหลามเสมอเหมือนในเวลานี้ และจากนั้นก็ในขณะนี้มีการใช้บ่อยขึ้นเพราะว่ามัสตาร์ดมีประโยชน์ต่อสภาพร่างกายเยอะมาก บางคนใช้เม็ดของพืชจำพวกนี้ไม่เพียงแค่ แม้กระนั้นในการแต่งรสเผ็ดเท่านั้น แม้กระนั้นยังเป็นน้ำมันที่มีประโยชน์เยอะที่สุดด้วย ถึงแม้ยิ่งไปกว่านี้เชื่อกันว่ามัสตาร์ดหนึ่งเม็ดมีความแข็งแรงมากมายก่ายกอง เครื่องเทศร้อนใช้ทั้งในยาที่ไม่ใช่ยาแผนโบราณและยาแผนโบราณ

นอกเหนือจากการรับประทานอาหารด้วยผลิตภัณฑ์นี้แล้วยังมีการทำมาสก์ตัวและผ้าห่อตัวด้วย ขั้นตอนกลุ่มนี้ช่วยเหลือการเผาไขมันใต้ผิวหนัง แม้กระนั้นคุณค่าต่อสุขภาพที่สำคัญของมัสตาร์ดเป็นยาต้านทานจุลอินทรีย์ยาต้านเชื้อราและจากนั้นก็ขัดขวางการอักเสบ จุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดอันตรายในระบบทางเดินอาหารจะตายเมื่อเครื่องเทศรสเผ็ดไปสู่มัน แม้ว่าเมื่อใช้เครื่องปรุงรสนี้ในอาหารคุณจำเป็นต้องกระทำตามปริมาณ ช่วงท้ายมัสตาร์ดจะเผาผลาญโพรงปากและเยื่อบุไส้ ด้วยเหตุผลกลุ่มนี้ผู้ที่มีปัญหากระเพาะก็เลยจึงควรใช้ผลิตภัณฑ์นี้ด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง

การใช้มัสตาร์ดกับร่างกายในตอนของโรค ARVI เป็นอย่างไร? มีความนัยสำคัญ มัสตาร์ดช่วยแก้ไอได้ดีเยี่ยมและก็มีคุณสมบัติให้ความร้อน ขอบพระคุณพวกเขาพวกมันช่วยปรับให้เลือดกระจายตัวเจริญก้าวหน้าขึ้น สำหรับคนที่ไม่มีอาการน้ำมูกไหลเป็นเวลานานให้เทผงมัสตาร์ดลงในถุงเท้า นอกเหนือจากนั้นยังมีคุณประโยชน์สำหรับผู้ป่วยในการอาบน้ำก่อนไปนอนโดยใช้เครื่องปรุงรส

 

เม็ดมัสตาร์ด มัสตาร์ดจัดเป็นพืชกลุ่มเดียวกับกะหล่ำและบคอยคโคลี

เม็ดมัสตาร์ดเป็นเครื่องเทศที่นิยมใช้สำหรับเพื่อการปรุงอาหารมาเป็นเวลายาวนาน จนถึงปัจจุบันนี้ เนื่องจากสามารถกระตุ้นต่อมรับรสรุ่งเรือง นอกเหนือจากนั้นมัสตาร์ดยังมีสารที่มีประโยชน์ทางยาอีกเยอะมากซ่อนตัวอยู่ในด้านพฤษศาสตร์ มัสตาร์ด เป็นพืชในสกุลและสกุลเดียวกับกะหล่ำดอก กะหล่ำปลี รวมทั้งผักกาดขาว มัสตาร์ดที่ดัดแปลงในอุตสาหกรรมมี 3 ชนิด ดังเช่น มัสตาร์ดสีน้ำตาล (brown mustard) มัสตาร์ดสีดำ (black mustard) รวมทั้งมัสตาร์ดสีขาว (white mustard) มัสตาร์ดสีดำและขาวมีกำเนิดในแถบยุโรปบ่อยกับทวีปเอเชีย และก็มัสตาร์ดสีน้ำตาลมีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชีย ส่วนใหญ่จะใช้มัสตาร์ดสีขาวเป็นเครื่องเทศ แล้วก็มัสตาร์ดชนิดอื่นใช้ผลิตน้ำมันมัสตาร์ด

มัสตาร์ดสามารถเติบโตและจากนั้นก็สดชื่นได้ตามธรรมชาติ แม้ว่าเมื่อทำเป็นสวนเป็นไร่อย่างจริงจัง ในยามที่ดอกมัสตาร์ดบานเหลืองงามพร้อมทั้งไร่ มันช่างเป็นภาพอันสวยงามดังสวรรค์สร้าง อย่าง “ทุ่งมัสตาร์ดโหลผิง” ที่แผ่นดินยูนนาน อีกหนึ่งทิวภาพอันสวยที่ผู้เดินทางต่างใฝ่ฝันต้องการจะไปสัมผัสสักหนึ่งครั้งทุ่งดอกมัสตาร์ดเมืองโหลผิง อยู่ในมนฑลยูนนาน เมืองจีน จัดเป็นทุ่งมัสตาร์ดที่มีรอบๆกว้าง ไกลสูดลูกหูลูกตา ในตอนเดือนกุมภาพันธ์ถึงมี.ค.จะเป็นฤดูเพาะปลูก และ ผลิดอกบานสะพรั่งเหลืองพราวแพรวดูดี จากอุตสาหกรรมการกสิกรรม ได้แปลงมาเป็นสถานที่เที่ยว ล่อใจผู้เดินทางทั่วทั้งโลก สร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ได้ดีเยี่ยมทีเดียว

พื้นที่ เม็ดมัสตาร์ด เป็นเม็ดของ cruciferae (Cruciferae) แล้วก็สายพันธุ์ของมันมีเม็ดมัสตาร์ดสามสี เมล็ดมัสตาร์ด ดำเหลืองขาวและก็น้ำตาล ยาแผนโบราณแน่ใจว่าเม็ดมัสตาร์ดมีรสเผ็ดรวมทั้งอุ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในปอดและก็กระเพาะ ด้วยคุณสมบัติในการช่วยหายใจลดเสมหะทำให้ท้องอุ่นเพื่อขับไล่ความเย็นและก็กระตุ้นเส้นเมอริเดียนเพื่อยั้งความเจ็บปวดมักใช้สำหรับการรักษาเสมหะแล้วก็โรคหอบหืดอาการเจ็บอกและก็ภาวการณ์ขาดออกสิเจนแขนขาชาปวดข้อบวมที่เกิดขึ้นมาจากการอักเสบ รวมทั้งโรคอื่นๆในตอนไม่กี่ปีที่ผ่านมาพบว่าเม็ดมัสตาร์ดมีส่วนประกอบทางเคมีหลายชนิดตัวอย่างเช่นไอโซไทโอไซยาเนตกรดยูริกสารฟีนอลิกรวมทั้งฟีแนนทรีนซึ่งมีหน้าที่ทางสรีรวิทยาต่างๆสำหรับเพื่อการต้านทานโรคมะเร็งและยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย

ผลิตภัณฑ์ดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขจากเม็ดมัสตาร์ดเป็นเครื่องปรุงรสยอดฮิตมากไม่น้อยเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้ก็เลยมีการเอ่ยถึงส่วนประกอบทางเคมีรวมทั้งหน้าที่ทางสรีรวิทยาของเม็ดมัสตาร์ดเพื่อการพัฒนาและการใช้ผลในด้านที่ดีทรัพยากรเม็ดมัสตาร์ดต่อไปมัสตาร์ด เป็นซอสที่ได้จากการนำเม็ดมัสตาร์ด มาบด ป่น หรือผสมกับเครื่องปรุงต่างๆทำให้ได้ซอสสีเหลืองที่มีรสชาติเผ็ด เปรี้ยว แล้วก็เค็ม ในมัสตาร์ดมีสารอาหารที่สำคัญ เป็นต้นว่า ธาตุเหล็ก แคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ทั้งยังมีประโยชน์ต่อสภาพร่างกายในด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็นอาจช่วยลดน้ำตาลที่อยู่ในเลือด คุ้มครองการติดเชื้อ ช่วยลดลักษณะโรคสะเก็ดเงิน อื่นๆอีกมากมายโดยธรรมดาเม็ดมัสตาร์ดจะปลูกจากเม็ด หากแม้สามารถปลูกได้จากต้นกล้าที่ซื้อมาสิ่งเดียวกัน เมื่อเลือกเม็ดมัสตาร์ดสำหรับในการเพาะปลูกพืชมัสตาร์ดใดๆที่ปลูกเป็นสีเขียวสามารถปลูกเป็นเม็ดมัสตาร์ด

ช่วยรักษาความดันโลหิตต่ำความดันเลือดต่ำ มันเกิดขึ้นเมื่อความดันเลือดต่ำกว่าธรรมดา ซึ่งแปลว่าการเต้นของชีพจรซึ่งจากที่คุณทราบแน่ๆว่าควรต้องรับผิดชอบสำหรับในการสูบฉีดเลือดไปยังที่เหลือของร่างกายของพวกเรามีทิศทางที่จะก้าวช้าลงกว่าธรรมดาด้วยเหตุผลดังกล่าวความดันโลหิตต่ำสามารถส่งผลให้เกิดการเป็นลมเป็นแล้งและก็ตาลายด้วยความที่ทั้งยังหัวใจหรือสมองหรือท้ายที่สุดอวัยวะอื่นๆได้รับเลือดที่ต้องในทางนี้ มัสตาร์ดช่วยรักษาความดันโลหิตต่ำตามธรรมชาติ เนื่องจากว่ามีความรู้และความเข้าใจตามธรรมชาติที่น่าดึงดูดมากมายสำหรับในการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและก็เพิ่มระดับความดันเลือด

แม้ว่าคุณมีลักษณะอาการปวดหัว ให้บดเม็ดมัสตาร์ดแล้วทาที่หน้าผาก เม็ดมัสตาร์ด มันได้ประสิทธิภาพที่ดีในลักษณะของการปวดหัว คุณสามารถปรุงมัสตาร์ดแล้วหลังจากนั้นก็สระผมด้วย เนื่องจากดีมากยิ่งกว่าเดิมอาการเหา สิวเสี้ยน ผื่นคัน ฯลฯ แม้คุณอาเจียน ให้บดมัสตาร์ดรวมทั้งการบูรแล้วอุ่นนิดหน่อย ทาลงบนกระเพาะแล้วอาการอ้วกจะดียิ่งขึ้น การใช้มัสตาร์ดช่วยเพิ่มการย่อยของอาหารของคุณ คุณรับประทานเม็ดมัสตาร์ด 1-2 กรัมผสมกับน้ำตาล ภายหลังจากนี้กินน้ำครึ่งถ้วย ของกินไม่ย่อยหรือเจ็บท้องจะดีกว่าเดิม เพื่อลดอาการบวมที่เกิดขึ้นจากโรคข้ออักเสบหรือปัจจัยอื่นๆให้ใช้เม็ดมัสตาร์ดแล้วก็การบูร

สิ่งนี้จะช่วยดียิ่งขึ้นลักษณะของการปวดแล้วก็บวม แม้คุณมีลักษณะอาการคัน ขี้กลากโรคเกลื้อน หรือปัญหาผิวอื่นๆให้ผสมแป้งข้าวไรกับเนยใสของโคแล้วทาบนผิวหนัง สิ่งนี้จะก่อให้เกิดความโปร่งสบายหัวใจ ถ้าเกิดเลือดจับตัวกันจนเป็นก้อนที่จุดใดภายในร่างกาย ให้นวดด้วยน้ำมันมัสตาร์ด วิธีทำแบบงี้จะก่อให้การแข็งตัวของเลือดสิ้นสุดลง หากแม้ลูกของคุณมีลักษณะอาการไอ ให้นวดอกด้วยน้ำมันมัสตาร์ด ถ้าเกิดคุณมีลักษณะหวัดหรือน้ำมูกไหล ให้ใช้ประโยชน์จากเม็ดมัสตาร์ด นวดเท้ารวมทั้งฝ่าตีนด้วยน้ำมันมัสตาร์ด ซึ่งช่วยลดปัญหาอาการหวัดรวมทั้งน้ำมูกไหล เมื่อหายใจไม่สะดวก คุณควรจะรับประทานผงมัสตาร์ด 500 มิลลิกรัม ผสมกับเนยใสและก็น้ำผึ้งในตอนเวลาเช้าแล้วก็เย็น นี้ช่วยปรับให้คุณดียิ่งขึ้นในโรคระบบทางเดินหายใจรวมทั้งปอด

 

ผลในทางที่ดีสุขภาพที่ได้จากมัสตาร์ด

เป็นแหล่งสำคัญของสารต้านอนุมูลอิสระ ในมัสตาร์ดนั้นอุดมไปด้วยสารกลูโคสิโนเลตส์ (Glucosinolates) สารประกอบในกลุ่มซัลเฟอร์ ที่สามารถพบได้ในในผักเชื้อสายกะหล่ำต่างๆ(Cruciferous Vegetables) ดังเช่น กะหล่ำปลี กระหล่ำดอก บร็อคโคลี่ หรือแม้แต่ในมัสตาร์ด อื่นๆอีกมากมาย สารกลูโคสิโนเลตส์ (Glucosinolates) นี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยคุ้มครองปกป้องรักษาร่างกายจากความทรุดโทรมของเซลล์ ช่วยต้านทานการอักเสบ แบคทีเรีย และก็เชื้อรา มีคุณสมบัติช่วยปรับให้แผลฟื้นฟูได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังอาจสามารถช่วยคุ้มครองปกป้อง ไม่ให้เซลล์ของมะเร็งเติบโตหรือแพร่ไปได้อีกด้วย

นอกจากนั้น ในมัสตาร์ดยังเป็นแหล่งสำคัญของ nago-coffee  สารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ที่มีงานค้นคว้าพบว่า สามารถช่วยป้องกันจากโรคเรื้อรังต่างๆยกตัวอย่างเช่น โรคหัวใจ หรือโรคเบาหวาน อื่นๆอีกมากมาย พืชมัสตาร์ดจะมีดอกท้ายที่สุดและไปที่เม็ด ดอกไม้ของเม็ดมัสตาร์ดโดยปกติจะมีสีเหลือง ถึงแม้ว่าบางจำพวกมีดอกสีขาว เมื่อดอกมัสตาร์ดโตแล้วก็โตเต็มที่มันจะกลายเป็นฝัก มองดูฝักเหล่านี้เพื่อเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล สัญญาณอีกประการหนึ่งที่คุณกำลังใกล้เวลาเก็บเกี่ยวเป็นใบของพืชจะเริ่มเป็นสีเหลือง ระวังอย่าทิ้งฝักไว้ภายในต้นเม็ดมัสตาร์ดนานเกินจำเป็นเพราะว่ามันจะเปิดออกเมื่อสุกสุดกำลังรวมถึงการเก็บเกี่ยวเม็ดมัสตาร์ดจะหายไป.

ขั้นตอนต่อไปสำหรับในการเก็บเกี่ยวเม็ดมัสตาร์ดเป็นการเอาเม็ดออกมาจากฝัก เมล็ดมัสตาร์ด  คุณสามารถทำได้ด้วยมือของคุณหรือคุณสามารถวางหัวดอกไม้ในถุงที่ทำจากกระดาษและอนุญาตให้พวกเขาเสร็จการสุก ฝักจะเปิดด้วยตัวเองในหนึ่งถึงสองอาทิตย์รวมทั้งเขย่าเบาๆของถุงจะสั่นเม็ดมัสตาร์ดส่วนมากไม่รอบคอบ.เม็ดมัสตาร์ดสามารถดัดแปลงใหม่ได้ หากแม้ดังสมุนไพรรวมถึงเครื่องเทศอื่นๆถ้าหากคุณเก็บไว้ในระยะยาวพวกเขาจำเป็นจะต้องแห้ง