เพอร์ไลท์

เพอร์ไลต์สำหรับในการก่อสร้างทั่วๆไป (VPP) ผลิตในเกรดที่แตกต่างโดยมีขนาดเศษ 0.16-5 มิลลิเมตร หมวดนี้รวมทั้งหินบดก่อสร้าง ขนาดของเศษส่วนถึง 5-20 มม ตอนนี้แวดวงเกษตรบ้านพวกเราคงจะได้ยินคำว่า เพอร์ไลท์ กันหลายครั้งขึ้น คนไม่ใช่น้อยสงสัยว่าไอ้เจ้าเพอร์ไลท์มันเป็นอย่างไร รวมทั้งมันมีที่มายังไง วันนี้ผมเลยจะมาขอเอ๋ยถึงเจ้าหินเพอร์ไลท์ กันให้ฟังกันนะครับ ข้อแรกพวกเรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ เพอร์ไลท์ กันก่อนดียิ่งกว่านะครับ

สำหรับเพื่อการปลูกต้นแคคตัส สิ่งที่สำคัญสิ่งหนึ่งเป็น การเลือกใช้สิ่งของสำหรับเพื่อการปลูกซึ่งแต่ละสวนก็มีนานัปการกันออกไปแต่ว่าสำหรับสวนยายน้องข้าวปั้นแล้ว พวกเราเลือกที่จะใช้สิ่งของประสิทธิภาพสำหรับในการเพาะปลูก เพื่อจะเป็นการใส่ใจต้นไม้ที่พวกเรารัก และก็เป็นการดูแล ใส่ใจ อย่างดีเยี่ยม

เพอร์ไลท์เป็นสิ่งของปลูกที่มีน้ำหนักค่อยแล้วก็โปร่ง มีส่วนประกอบที่เป็นรูพรุน สามารถซับน้ำได้ดิบได้ดีรวมทั้งช่วยเพิ่มอัตราการระบายน้ำรวมทั้งอากาศในอุปกรณ์ปลูก ลดปัญหาดินจับตัวกันจบกลายเป็นก้อนแข็ง ช่วยทำให้พืชเติบโตได้ดิบได้ดี รากพืชแข็งแรง รากเดินสบาย ช่วยคุ้มครองป้องกันการเกิดโรครากในพืช

เทคโนโลยีการสร้างเวอร์มิคูไลท์มีความสลับซับซ้อนบางส่วน อย่างไรก็ดีในขั้นตอนสุดท้ายการบวมของแร่กลีบหินจะเกิดขึ้นที่อุณหภูมิราว 880 เกี่ยวกับค. ส่วนประกอบของสารเบื้องต้นในลักษณะเดียวกันได้รับความพรุนเนื่องด้วยน้ำเดือดที่ไหลออกมา อย่างไรก็ดีจำนวนแร่กลีบหินที่ถูกทำลายจะมากขึ้นสูงสุด 20 เท่า

Hydromica เป็นสิ่งของธรรมชาติ

เนื่องมาจากมีการสัมผัสกับน้ำรวมทั้งลมตรงเวลายาวนานหลายปีการกัดเซาะได้ทำลายสารประกอบที่ละลายน้ำได้ทั้งปวง อย่างไรก็ดี microelements ใน vermiculite จะปรากฏขึ้นภายหลังจากการทำลายผลึกไมก้าไฮเดรต สิ่งจำเป็นเป็นจะต้องพิจารณาถึงเรื่องจริงที่ว่าส่วนประกอบของธาตุใน vermiculite แบรนด์ต่างๆนั้นไม่เหมือนกันมากมาย

ขึ้นกับดินแดนที่วัตถุดิบถูกขุด – แร่กลีบหิน ดังเช่นว่าในแวร์มิคูไลต์หนึ่งตัวบางทีอาจขาดธาตุเหล็กไปหมด แม้กระนั้นมีโครเมียมแล้วก็ทองแดงอยู่มากมาย ตรงกันข้ามอุปกรณ์อื่นๆอุดมไปด้วยเหล็ก เมื่อซื้อเวอร์มิคูไลท์สำหรับพืชบางประเภทคุณต้องหาเนื้อหาสาระเกี่ยวกับส่วนประกอบของธาตุในเอกสารประกอบ

เวอร์มิคูไลท์ยังคงคุณลักษณะของอุปกรณ์เดิม เศษไม่มีการขัดสีมีความยืดหยุ่นบางส่วนรูปร่างคล้ายกับผลึกยาว สีเจอเป็นสีดำสีเหลืองสีเขียวโดยมีเฉดสีไม่เหมือนกันได้แก่สีน้ำตาล ตัวบ่งชี้ความหนาแน่นนานับประการตั้งแต่ 65 ถึง 130 กิโลกรัม ความพรุนต่ำสุดเป็น 65% รวมทั้งสูงสุดเป็น 90% เวอร์มิคูไลท์มีดัชนีความเป็นกรดคล้ายกับเพอร์ไลต์: ค่า pH เฉลี่ยอยู่ที่ 7 หน่วย

เวอร์มิคูไลท์ไม่ทำปฏิกิริยากับกรดแล้วก็ด่างหลายประเภท อัตราการดูดซึมน้ำมากถึง 500% ของน้ำหนักตัวเอง เหมือนกับเพอร์ไลต์เวอร์มิคูไลต์มิได้อยู่ภายใต้การเสื่อมสภาพทางเคมีและก็ชีวภาพมันเป็นสิ่งที่ไม่น่าสนใจสำหรับสัตว์ฟันเล็มรวมทั้งแมลงทุกชนิด Vermiculite ผลิตด้วยขนาดเศษ 0.1 ถึง 20 มิลลิเมตร สำหรับการเกษตรใช้ agrovermiculite สำหรับปลูกพืชซึ่งมีขนาดเศษส่วนต่างกันตั้งแต่ 0.8 ถึง 5 มิลลิเมตร

เพอร์ไลท์ช่วยลดการใช้ปุ๋ยรวมทั้งสารเคมีมากเกินต้อง ด้วยคุณลักษณะส่วนประกอบลักษณะรูพรุนของเพอร์ไลท์ ก็เลยช่วยดูดซับสารอาหารจากปุ๋ย รวมทั้งสารเคมีอื่นๆเอาไว้ในดินปลูกรวมทั้งปลดปล่อยออกมาอย่างช้าๆก็เลยช่วยชะลออัตราการย่อยสลายและก็ขยายช่วงเวลาการออกฤทธิ์ของปุ๋ยรวมทั้งสารเคมีให้ยาวนานเพิ่มขึ้น

เพอร์ไลท์นับเป็นสิ่งของปลูกที่มีคุณลักษณะเด่นและก็สมควรต่อการเพาะปลูก แต่ว่าแต่เพอร์ไลท์ที่ผลิตขึ้นมาจากหินภูเขาไฟ ซึ่งเป็นสารอนินทรีย์ก็เลยอาจมีความจำกัดบางประการและก็มีข้อควรคำนึงสำหรับการใช้งานดังต่อไปนี้ เพอร์ไลท์บางทีอาจเป็นสิ่งของปลูกที่มีคุณค่าทางสารอาหารค่อนข้างจะน้อย เพราะเหตุว่าเป็นอุปกรณ์ปลูกไว้ในกรุ๊ปอนินทรีย์ จำเป็นจะต้องใช้เพอร์ไลท์ผสมรวมกับสิ่งของปลูกอื่นๆเพื่อช่วยเสริมธาตุอาหารสำคัญให้ครบถ้วนบริบูรณ์ ดังเช่นว่า ดินร่วนซุย ปุ๋ยคอก เวอร์มิคูไลท์ อื่นๆอีกมากมาย

หรือในเรื่องที่ใช้เพอร์ไลท์เพื่อการเพาะเม็ด เพาะต้นกล้า เมื่อต้นอ่อนเริ่มแทงยอดออกมาจากเม็ดควรจะเริ่มให้ปุ๋ยเสริมธาตุอาหารโดยทันทีในสภาพการณ์ห้อมล้อม ที่โล่งแจ้งที่ชอบแห้งเร็ว เวอร์มิคูไลท์จะมีความเหมาะสมกว่า แม้กระนั้นสำหรับต้นไม้ในบ้าน ความชุ่มชื้นที่มากเกินความจำเป็นอาจจะส่งผลให้กำเนิดปัญหาโรคราได้ ซึ่งการใช้เพอร์ไรท์จะมีความเหมาะสมกว่าในหัวข้อการระบายความชุ่มชื้น

ประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากเพอร์ไลท์

ถ้าเกิดเอ๋ยถึงสิ่งของปลูกของแคคตัสแล้ว จะเห็นได้ชัดว่า มีส่วนผสมของอุปกรณ์ปลูกที่นานัปการ รวมทั้งมีหลายสูตรมากมาย ดังนี้ สังกัดผู้ปลูกเป็นหลักว่า จะใช้ส่วนประกอบอะไรบ้าง สิ่งของปลูกหลายประเภทก็มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งทำให้ผู้พึงพอใจบางทีอาจงง และก็ยากต่อการเขียนจำ ด้วยเหตุนี้ ทางพวกเราก็เลยมีการแยกประเภทอุปกรณ์ปลูกแต่ละจำพวก รวมทั้งเก็บมาชี้แจงที่ละอย่าง เพื่อสหายๆที่พอใจเรียนรู้ได้อย่างมาก

อุปกรณ์เพาะกล้าเป็นสิ่งของที่ใช้เพาะเป็นส่วนประกอบสำคัญในกรรมวิธีเริ่มของเม็ดแล้วก็การเติบโตของพืช อุปกรณ์พวกนี้มีเงื่อนไขที่ต้องในการผลิออกของเม็ดและก็การเติบโตของต้นอ่อน แล้วก็อาจมีผลพวงอย่างยิ่งต่อร่างกายโดยรวมแล้วก็การบรรลุเป้าหมายของพืชของคุณ ในเนื้อหานี้ พวกเราจะตรวจสอบจุดสำคัญของสิ่งของเพาะกล้าสำหรับเพื่อการเริ่มเพาะเม็ดแล้วก็การเติบโตของพืช รวมทั้งสิ่งของจำพวกต่างๆที่ใช้กันทั่วๆไปในเรือนเพาะชำรวมทั้งโรงเรือน

สิ่งที่จำเป็นที่สุดอย่างหนึ่งของสิ่งของเพาะกล้าเป็นการกักเก็บน้ำ เมล็ดพืชอยากความชุ่มชื้นสำหรับในการแตกออกรวมทั้งเริ่มเติบโต แล้วก็ต้นอ่อนยังปรารถนาความชุ่มชื้นที่เป็นประจำเพื่อปรับปรุงรากที่แข็งแรงแล้วก็สร้างเนื้อตั้งตัว สิ่งของเพาะกล้าที่มีความรู้ความเข้าใจสำหรับในการเก็บกักน้ำสูง ตัวอย่างเช่น พีทมอสหรือวัวโค่พีท มีคุณประโยชน์เป็นอย่างมากสำหรับเพื่อการเริ่มเพาะเม็ดและก็การเติบโตของต้นอ่อน

ตอนนี้คนไม่ใช่น้อยเริ่มหันมาปลูกต้นไม้กันเพิ่มมากขึ้น อาจเป็นเพราะการมีเวลาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจำต้องกักบริเวณอยู่ด้านในห้องพักหรือบ้านเป็นระยะเวลานานๆในตอนเหตุการณ์อย่างงี้ การปลูกต้นไม้ก็เลยบางทีอาจเป็นกิจกรรมที่น่าดึงดูด แต่ว่านอกเหนือจากการปลูกต้นไม้แบบทั่วๆไปที่พวกเรามองเห็นอยู่ทั่วๆไปแล้ว

วันนี้ทาง Kaset today ก็ต้องการจะมาเสนอแนะให้ทุกคนทดลองหันมาปลูกพืชแบบไม่ใช้ดินกัน ฟังมาถึงที่ตรงนี้ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยก็คงจะสงสัยว่ามันเป็นอย่างไร จำต้องบออก่อนว่าการปลูกพืชแบบไม่ใช้ดินได้แก่การใช้อุปกรณ์ที่มีคุณลักษณะใกล้เคียงกับดินเป็นมีส่วนประกอบธาตุ สารอาหารแล้วก็มีคุณลักษณะสำหรับเพื่อการเก็บกักน้ำ

การคายน้ำหรือความชุ่มชื้นที่มีส่วนช่วยสำหรับเพื่อการเติบโตของต้นไม้ โดยจะมีอีกทั้งสิ่งของที่เกิดขึ้นมาจากอนินทรีย์สาร อินทรีย์สารแล้วก็อุปกรณ์ที่เกิดขึ้นมาจากการสังเคราะห์ เช่น แกลบ ขี้เลื่อย พีโคลนอส ดินประเทศญี่ปุ่น เม็ดดินเผาต่างๆฯลฯ ซึ่งสิ่งของที่กล่าวมาส่วนใดส่วนหนึ่งนั้นมีคุณลักษณะที่เหมาะกับการเพาะปลูกทั้งยังต้นกล้าและก็พันธุ์พืชทั่วๆไป

เพอร์ไลท์ (Perlite) เป็นยังไง

เพอร์ไลท์เป็นหินอเค้าโครงภูเขาไฟที่มีจำนวนน้ำค่อนข้างจะสูง โดยเกิดขึ้นจากการที่น้ำเข้าไปทำปฏิกิริยากับหินอ๊อบสิเดียน ชอบเจอตามธรรมชาติ เมื่อถูกเผาจะมีการขยายตัว มีการประยุกต์ใช้ในทางอุตสาหกรรม รวมทั้งได้ผลผลิตเชิงพาณิชย์ที่มีสาระ เนื่องมาจากคุณลักษณะที่มีน้ำหนักค่อยภายหลังผ่านขั้นตอนเผาไปแล้ว

เมื่อมันได้รับความร้อนโดยประมาณ 850-900 องศาเซสเซียล หินเพอร์ไลต์ จะมีความอ่อนนุ่มจนถึงราวกับกระจก โดยน้ำซึ่งถูกเก็บกักในส่วนประกอบของหิน เมื่อได้รับความร้อนจะมีการขยายตัวกระทั่งมีความจุ 7-16 เท่าของขนาดเดิม การขยายตัวทำให้หินมีความวาวเยอะขึ้นเรื่อยๆ และก็มีผลต่อการดูดดูดซึมฟองอากาศของหิน หินเพอร์ไลต์ที่ไม่มีการขยายตัวแล้วจะมีความหนาแน่นราว 1100 kg/m³ ส่วนหินเพอร์ไลต์ที่มีการขยายตัวแล้วจะมีความหนาแน่นเหลือเกิน 30–150 kg/m³.

เพราะการหินเพอร์ไลต์มีความหนาแน่นต่ำ รวมทั้งราคาไม่แพงก็เลยถูกปรับปรุงเอาไปใช้สำหรับการค้า เป็นต้นว่า พลาสเตอร์น้ำหนักค่อย ส่วนประกอบของซีเมนต์ ฉนวน เป็นฝ้าเผดาน แล้วก็ ตัวช่วยกรองในพืชสวน สำหรับในด้านการกสิกรรมหินเพอร์ไลต์สามารถใช้เปลี่ยนแปลงดิน แล้วก็ยังคงใช้สำหรับปกคลุมผิวดิน เพื่อปกป้องการอับอายขายหน้าดิน

เพอร์ไลท์ เป็นอุปกรณ์ปลูกประเภทหนึ่งที่ใช้กันอย่างมากมายในแวดวงเกษตร ด้วยคุณลักษณะที่มีส่วนประกอบแบบรูพรุน ก็เลยช่วยทำให้ปรับประสิทธิภาพของดินปลูกให้มีความโล่ง ไม่จับตัวกันมีลักษณะที่กลายเป็นก้อนแข็ง สามารถระบายน้ำแล้วก็อากาศได้ดิบได้ดี ช่วยเพิ่มอัตราการรอคอยดแล้วก็การเติบโตของพืชพันธุ์

เพอร์ไลท์ ทำจากอะไร

บ่อเกิดของเพอร์ไลท์ (ที่ใช้เป็นสิ่งของปลูก)หมายถึงหินเพอร์ไลท์ ซึ่งเป็นหินภูเขาไฟประเภทหนึ่งที่เกิดขึ้นได้เองในธรรมชาติ พบได้ทั่วไปในประเทศอาร์มีเนีย กรีซ ประเทศตุรกี อเมริกา แล้วก็ฮังการี ซึ่งหินภูเขาไฟประเภทนี้เป็นหินภูเขาไฟที่มีจำนวนน้ำในตัวออกจะสูง มีต้นเหตุมาจากการเย็นแล้วก็แข็งลงอย่างเร็วของลาวาจนกระทั่งทำให้ได้หินที่มีลักษณะเป็นเนื้อแก้ว (Volcanic Glass)

ซึ่งเป็นแร่ที่เจอในรูป Aluminum Iron – Magnesium Silicate มีธาตุอาหารธาตุฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม แล้วก็แคลเซียม เป็นองค์ประกอบซึ่งพืชสามารถใช้ประโยชน์คุณประโยชน์ได้ เมื่อนำเวอร์มิคูไลท์มาอบด้วยความร้อน 1,000 องศาเซลเซียส

จะก่อให้ขยายตัวขึ้นหลายเท่า มีน้ำหนักค่อย มีปฏิกิริยาเป็นกลาง ไม่หวั่นไหวต่อความเคลื่อนไหวความเป็นกรด-ด่าง (pH) ไม่ละลายน้ำ สามารถดูดซึมน้ำเจริญ มีความรู้แลกประจุบวกสูง สามารถดูดซึมธาตุอาหารแล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยๆปล่อยให้ในวันหลัง

เปลี่ยนเป็นหินออบสิเดียน (Obsidian) ที่ตัวหินจะเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำ เนื้อหินเนียนละเอียดรวมทั้งมีผลึกเล็กมากมาย ถัดมาเมื่อหินออบสิเดียนกลุ่มนี้ทำปฏิกิริยากับน้ำเป็นระยะเวลาที่ยาวนานก็จะเปลี่ยนเป็นหินเพอร์ไลท์ ซึ่งโดยส่วนมากจะมีสีดำหรือสีเทา มีขนาดรวมทั้งทรงที่ไม่แน่นอน

นอกจากนั้นเพอร์ไลต์ช่วยซับสะสมพวกสารกำจัดแมลงยาฆ่าหญ้า และก็ปุ๋ยเคมีต่างๆที่เกษตรกรเพิ่มลงไปในดินไว้ไม่ให้ซึมหายออกไปจากดินเร็วเกินความจำเป็น รวมทั้งยังเป็นตัวช่วยลดความเข้มข้นของปุ๋ย และก็สารกำจัดศัตรูพืชที่เพิ่มเติมลงไปในดินจากคุณลักษณะต่างๆของเพอร์ไลต์ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นจะช่วยเพิ่มผลิตผลทางด้านทำการเกษตรได้อย่างดีเยี่ยม

สามารถใช้เพอร์ไลท์เพื่อผลดีด้านการเพาะปลูกได้อย่างนานัปการ อีกทั้งการใช้เพื่อเพาะพันธุ์เม็ด เพาะต้นกล้า การปักชำพืชหรือใช้สำหรับปลูกพันธุ์ไม้ทั่วๆไป อีกทั้งพันธุ์พืชดอกไม้แต่งแต้ม และก็ยังนิยมใช้เป็นอุปกรณ์ปลูกสำหรับเพื่อการปลูกพืชไม่มีดิน (ไฮโดรโปนิกส์)

ดังนี้รูปร่างและก็จำนวนการใช้เพอร์ไลท์บางทีอาจต่างกันออกไปสำหรับในการเพาะปลูกเม็ด หรือพืชพันธุ์แต่ละประเภท ผู้ใช้จำเป็นที่จะต้องศึกษาเล่าเรียนรวมทั้งใช้เพอร์ไลท์ในจำนวนที่สมควร เพื่อช่วยเพิ่มอัตราการบรรลุเป้าหมายสำหรับในการเพาะปลูกและก็ทำให้พืชพันธุ์งอกงามได้อย่างดีเยี่ยม