ภาพยนตร์ เดอะ ฮอบบิท เพื่อทวงคืนเทือกเขาโลนลี่จากมังกรสม็อก ภาพยนตร์มีผู้แสดงนำฝ่ายจำนวนหลายชิ้น ดังเช่นว่า เคน สตอตต์, เคต กางลุกลี้ลุกลนเชตต์, เบื่อ โฮล์ม, คริสโตเฟอร์ ลี, ฮิวโก วีฟวิง, เจมส์ เนสบิตต์, เอไลจาห์ วูดแล้วก็แอนดี เซอร์กิส ร่วมกับ สิลเวสเตอร์ แมคคอย, กางร์รี ฮัมเฟรสและก็มานู เบนเนตต์ การเสี่ยงภัยสุดคาดการณ์ ฉายรอบรอบแรกตอนวันที่ 28 เดือนพฤศจิกายน คริสต์ศักราช 2012 ที่นิวซีแลนด์ และก็ฉายทั่วทั้งโลกช่วงวันที่ 12 ธ.ค. คริสต์ศักราช 2012
เป็นภาพยนตร์แนวมหากาพย์เผชิญภัยแฟนตาซีระดับค่อนข้างสูง ภาพยนตร์ เดอะ ฮอบบิท ฉายเมื่อปี คริสต์ศักราช 2012 ดูแลโดย ปีเตอร์ แจ็กสัน เป็นภาพยนตร์ภาคแรกในรูปภาพยนตร์สามภาคที่ดัดแปลงแก้ไขจากนิยายชื่อเดียวกัน ของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน เมื่อปี คริสต์ศักราช 1937 โดยภาคต่อมาเป็น ดินแดนเปลี่ยวร้างของสม็อค (2013) และก็ การสู้รบ 5 กองทัพ (2014)
- อีกทั้งสามภาคเดินเรื่องก่อนหน้าเหตุใน เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ตรีภาคของแจ็กสัน ภาพยนตร์เขียนบทโดย แจ็กสัน ร่วมกับ ฟราน วอล์ชรวมทั้งฟิลิปขว้าง โบเยนส์ ซึ่งเป็นผู้มาร่วมงานกับแจ็กสันมาอย่างนาน แล้วก็ กิเยร์โม เดล โตโร ซึ่งตอนแรกได้รับเลือกให้ดูแลภาพยนตร์หัวข้อนี้ก่อนออกมาจากโครงงานในปี คริสต์ศักราช 2010 อย่างไรก็แล้วแต่ หนังโดยรวมสร้างความเพลิดเพลินให้ได้เพียงแค่ในระดับพอประมาณ หรือพอได้เพลิดเพลินๆแค่นั้น เนื่องจากเรื่องราวของหนังมีความเข้มข้นรวมทั้งมีพลังน้อยไปหน่อย
เรื่องราวไม่ได้แตกต่างจาก The Fellowship of the Ring เท่าไร เป็นการเริ่มเดินทางเพื่อทำภารกิจ กลางทางก็พบอสูรต่างๆแต่ว่า The Hobbit มิได้ทำให้พวกเรารู้สึกถึงความน่าสยองของภัยร้าย และก็ความลำบากตรากตรำของภารกิจได้ถึงครึ่งเลย มิได้ทำให้เกิดความรู้สึกถึงการแบกแบกภาระอันยิ่งใหญ่ของคนตัวเล็กที่ทำให้พวกเราทั้งยัง ลุ้น ทั้งยังเห็นอกเห็นใจ ทั้งยังต้องการเอาใจช่วยได้เท่าไร มันให้อารมณ์เสมือนเป็นการเริ่มเดินทางเสี่ยงอันตรายตามแบบฉบับหนังเสี่ยงภัยทั่วๆไป ก็เลยยิ่งทำให้หนังมีความพิเศษลดลงไปอีก
วิภาควิจารณ์หนัง ภาพยนตร์ เดอะ ฮอบบิท
ความคิดเห็นด้านลบส่วนมากที่เกิดสังกัดหนังมาจากการที่รังเกียจเทคโนโลยี 48เฟรม/วิ ที่ใช้ในลัษณะของการฉายหนัง รวมทั้งอีกส่วนก็มาจากการนำเสนอหนังของ ปีเตอร์ แจ็คสัน เอง ที่ทำไม่เหมือนกับฉบับนิยาย เพราะเหตุว่าในเวลาที่ The Lord of the Rings ซึ่งเป็นนิยายที่มีความหนามาก แล้วก็ยาวถึงสามภาค แจ็คสันได้พากเพียรตัดทอนรายละเอียดลง ไม่เหมือนกับ The Hobbit ที่บางมากยิ่งกว่า กลับถูกขยายเป็นสามภาค ทำให้นักวิพากษ์วิจารณ์เล็กน้อยมีความคิดเห็นว่ารายละเอียดในหนังนั้นกินเวลาเหลือเกิน
- สำหรับผมแล้ว ได้ดูหนังในระบบ IMAX ก็เลยปราศจากความมองเห็นเรื่อง HFR แต่ว่าจากที่อ่านคำวิพากษ์วิจารณ์จากนักดูหนังคนประเทศไทยก็ดูเหมือนจะเสียงแตกหนุ่มพอเหมาะพอควร บางบุคคลกล่าวว่าชัดเหลือเกิน ปวดตา รวมทั้งราวกับดูโทรทัศน์หน้าจอยักษ์เหลือเกิน ส่วนอีกกรุ๊ปก็กล่าวว่าภาพชัดเจน มองงาม สมจริงสมจัง ซึ่งบางทีอาจเป็นที่ความพอใจส่วนตัวจริงๆว่าอยากที่จะให้หนังออกมาในแบบไหนนะครับ
ภาพยนตร์เดินเรื่องอยู่ใน กลางโลก ตอนหกสิบปีกลายสถานะการณ์ใน เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ รวมทั้งนิดหน่อยของภาพยนตร์ดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขมาจากภาคผนวกใน กษัตริย์คืนบัลลังก์ ของโทลคีน การเสี่ยงอันตรายสุดคาดหมาย เล่าราวของ ใบเสร็จรับเงินโบ แบ๊กกิ้นส์ (มาร์ติน ฟรีแมน) ที่ได้รับการชักนำจากบิดามด แกนดัล์ฟ (เบื่อ แมคเคลเลน) ให้ร่วมเดินทางไปกับแผนกคนแคระแกร็นสิบสามคน นำโดย ธอริน โอเคนชิลด์ (ริชาร์ด อาร์มิเทจ)
ข้างหลัง มหาการศึกชิงโลก ฉายราวเก้าปี ภาพยนตร์ทำเงินมากยิ่งกว่า 1.017 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการทำเงินแซงอีกทั้ง ปาฏิหาริย์แหวนครอบครองพื้นพิภพ แล้วก็ ศึกหอสังเกตการณ์คู่กู้โลก แล้วก็เปลี่ยนเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดชั้นลำดับที่สี่ในปี คริสต์ศักราช 2012 ภาพยนตร์ได้รับการตอบกลับที่นานาประการจากนักวิพากษ์วิจารณ์ ภาพยนตร์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในรางวัลออสการ์สามสาขา ยกตัวอย่างเช่น สาขาแนวทางพิเศษดีเลิศ, ดีไซน์งานสร้างดีเลิศและก็แต่งหน้าทาปากรวมทั้งทำผมดีเยี่ยมที่สุด แล้วก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในรางวัลกางฟตาสามสาขา
รีวิว The Hobbit An Unexpected Journey | การเดินทางสุดคาดหวังของฮอบบิท
เล่าราวการเสี่ยงอันตรายของ ใบเสร็จรับเงินโบ แบ๊กกิ้น คุณลุงของโฟรโดที่เป็นดารานำชายมาตลอดใน The Lord of The Rings การเสี่ยงอันตรายตอนนั้น อยู่ในหนังสือเล่มที่คุณลุงใบเสร็จรับเงินโบเขียนไว้ ถูกเอามาเล่าขยายเกิดเรื่องใหม่ ยุคคุณลุงใบเสร็จรับเงินโบ (Martin Freeman) ยังชายหนุ่มๆมึงถูกเชื้อเชิญให้ร่วมเสี่ยงอันตรายไปอย่างไม่เต็มใจเยอะแค่ไหน เสมือนถูกผูกมือต่อยมากยิ่งกว่า ภาพยนตร์ เดอะ ฮอบบิท แม้กระนั้นเทียวไปเทียวมามึงกลับสนุกสนานกับมันเสียแบบนั้น คนมาเชื้อเชิญก็ไม่ใช่ผู้ใดกันแน่
-
นักแสดงที่แฟนหนังแฟนหนังสือรักที่สุดอย่างบิดามด แกนดัล์ฟ (Ian McKellen) ผู้มาขอให้คุณลุงใบเสร็จรับเงินโบร่วมเดินทางไปกับเหล่าคนแคระแกร็นทั้งยังสิบสามเพื่อตามหาอะไรบางอย่างที่อยู่ใกล้โพ้น
คราวนี้ก็มาถึงคิวของ ภาพยนตร์สามภาคที่บรรลุความสำเร็จสูงที่สุดอีกเรื่องหนึ่งอย่าง The Hobbit 1 An Unexpected Journey ภาคที่ 1 โดยมีชื่อไทยว่า เดอะ ฮอบบิท การเสี่ยงอันตรายสุดคาดการณ์ เป็นภาพยนตร์แนวมหากาพย์แฟนตาซีเผชิญภัย ฉายเมื่อปี คริสต์ศักราช 2012 เป็นภาพยนตร์ภาคแรกในรูปภาพยนตร์สามภาคที่ดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขจากนิยายชื่อเดียวกัน ของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน เมื่อปี คริสต์ศักราช 1937 ภาพยนตร์เดินเรื่องอยู่ใน ปานกลางโลก ตอนหกสิบปีกลายเรื่องใน เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ รวมทั้งนิดหน่อยของภาพยนตร์ปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงมาจากภาคผนวกใน กษัตริย์คืนบัลลังก์ ของโทลคีน อีกด้วยจ้ะ
ช่วงเวลาเดียวกัน ผู้แสดงของ The Hobbit ก็ขาดเอกลักษณ์ ไร้ซึ่งเสน่ห์ และก็ขาดพลังแบบเหล่าผู้สนับสนุนที่แหวน ผมจำนักแสดงคนเล็กแกร็นได้เพียงแค่บางตัวเพียงแค่นั้น และไม่ได้ทราบสึกได้เข้าถึงจิตใจของนักแสดงพวกนั้นจนถึงกำเนิดความเมตตาสงสารหรือหลง รักผู้แสดงสักเท่าไหร่ มีเพียงแต่บาลิน นักแสดงของเคน สต็อตต์ เพียงแค่นั้นที่มองมีอะไรให้แสดงเยอะแยะ ที่เหลือโดยมากมองเป็นตัวละครโหลๆอย่างเดียวที่ทำให้การดูหนังประเด็นนี้ได้เพลิดเพลินๆคงจะเป็นที่งานสร้างเป็นส่วนมากครับผม
วิภาควิจารณ์หนัง The Hobbit: The Battle of the Five Armies ศึกบอกลา
หนังเริ่มกล่าวถึงรายละเอียดภูมิหลังของเผ่นคนแคระแกร็น ซึ่งช่ำชองงานช่างแล้วก็งานเหมือง พวกเค้ามีอาณาจักรที่เต็มไปด้วยทอง ตราบจนกระทั่งวันนึง มีมังกรไฟ “สม็อก” เข้ามายึดเมือง ทำให้เหล่าคนแคระแกร็นจะต้องระเห็ดพรากจากถิ่นของตนเอง กระจัดกระจายไปยังดินแดนต่างๆโดยหวังว่าซักวันจะได้กลับมาอยู่ในบ้านกำเนิดอีกที หนังเล่าถึงผู้แสดง ใบเสร็จรับเงินโบ แบ๊กกินส์ ยุคยังชายหนุ่ม ใบเสร็จรับเงินโบเป็นคุณลุงของโฟรโด ฮอบบิทที่เป็นตัวเอกในเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์
- ซึ่งเรื่องราวในส่วนนี้ใบเสร็จรับเงินโบยังไม่เคยเล่าให้ผู้ใดกันฟัง รวมทั้งเพียรพยายามเขียนมันเป็นนิยายการเสี่ยงอันตรายของตน ใบเสร็จรับเงินโบได้เจอกับกานดาล์ฟ บิดามดสีเทา และก็ชวนใบเสร็จรับเงินโบไปเสี่ยงภัย ในเวอร์ชั่นหนังนี้ คณะทำงานเขียนบทแล้วก็ผู้กำกับฯ เลือกจับเอานักแสดงบางตัวที่ไม่อยู่ในหนังสือมาเล่าเพิ่มด้วย (ซึ่งก็คาดว่าเขาอยู่ในภาคผนวกของ LOTR เล่มลำดับที่สามโน่นแล) แถมยังแปลงบทเล็กน้อยให้มองบันเทิงใจมีชีวิตชีวาขึ้นและก็ยังมีเหตุผลขึ้นอีกด้วย
ในเรื่องมุมกล้องถ่ายภาพ จะต้องจัดว่าทำเป็นเป็นอย่างดี ยิ่งเมื่อเป็น HFR 3D บางฉากที่ใช้การแพนกล้องยิ่งเสมือนเก้าอี้พวกเรามันหันไปได้ การฉายแบบ HFR ที่ 48 เฟรมต่อวินาทีทำให้ได้ภาพที่ชัดเจนกว่าการดูหนังทุกเรื่องที่เคยดูมา แต่ว่าการฉายหนังแบบ HFR นี่ก็ได้อย่างเสียอย่าง ภาพยนตร์ เดอะ ฮอบบิท ถ้าเกิดเป็นภาพที่นิ่งๆหรือเคลื่อนช้าๆนี่อย่างคม แต่ว่าพอเพียงเป็นภาพที่เคลื่อนเร็ว อย่างเช่นช็อตต่อสู้ หรือการเขยื้อนกล้องถ่ายภาพไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
จะได้ภาพที่มองตบตาอย่างไรไม่เคยรู้ อันนี้ อาจจะต้องทดลองไปพิสูจน์เอาเองครับผม ว่าจะรู้สึกเสมือนผมมั้ย การเล่าเรื่องของ ‘The Hobbit An Unexpected Journey’ เป็นการเสี่ยงอันตรายแบบเพลิดเพลินๆบางทีอาจตื่นเต้นน้อยไปนิดในระยะแรก รวมทั้งเบาๆเพิ่มความสนุกสนานร่าเริงตื่นเต้นมากเพิ่มขึ้นในช่วงหลัง
วิภาควิจารณ์ รีวิวหนังฮอบบิท2 The Hobbit ดินแดนเปลี่ยวร้างของสม็อค
The Hobbit: An Unexpected Journey จะดำเนินเรื่องได้ค่อนข้างจะช้าเมื่อเทียบกับ The Lord of the Rings ฉากต่อสู้น้อยกว่า มีฉากการติดต่อสื่อสารกันระหว่างนักแสดงมากยิ่งกว่า เนื่องจากปรารถนาสื่อให้ทราบถึงเรื่องราวที่มาที่ไปทั้งปวง แนะนำตัวคนแคระแกร็นแต่ละคน ยักษ์เขียว888 รวมทั้งมีเงื่อนให้คิดมากกว่าใน LOTR ยกตัวอย่างเช่น เพราะเหตุใดเอลฟ์ที่นำโดยธรันดิลไม่ยินยอมช่วยเผ่าคนแคระแกร็น เพราะอะไรก็เลยมีเนวัวรแมนเซอร์อยู่ในวังโดลกุลมองร์
-
รวมทั้งมันเป็นผู้ใดกัน เพราะอะไรซารูมาน ซึ่งเป็นหัวหน้าของเหล่าบิดามด ถึงได้บากบั่นเลี่ยงปริศนาเกี่ยวกับกระบี่ที่มอร์กุล หรือแม้กระทั้งว่าเพราะเหตุไรกาลาเดรียลถึงเรียกกานดาล์ฟว่า ไม่ทธรันเดียร์ และก็มีแววตาที่ดูกานดาล์ฟ เกินกว่าจะเป็นเพียงแค่เพื่อนพ้อง ทำให้ตอน 1 ชั่วโมงแรก รู้สึกเชื่องช้าไปหน่อยจ้ะ
ผู้ใดกันแน่ที่เคยถูกใจ LOTR มาแล้ว ผมคงจะบอกได้แค่เพียงว่า The Hobbit นั้นแตกต่างกัน มันมองเด็กกว่า ดาร์กน้อยกว่า เสมือนคนมองโลกในแง่ดีมากยิ่งกว่า อีกอย่างหนึ่ง ซึ่งมันมีเพลงด้วย มันเช่นเดียวกับในหนังสือเลย ถ้าเกิดถามคำถามว่าถูกใจ The Hobbit ภาคแรกนี้ไหม ก็อาจจะต้องกล่าวว่า ใบเสร็จรับเงินโบ เป็นฮอบบิทสุดที่รักสงบ ตอนต้นก็มิได้ตอบรับการเสี่ยงอันตรายอะไร แต่ว่าภายหลังการปรากฏตัวของคาราวานคนเล็กแกร็น ที่นำโดย ธอริน โอเคนชิลด์ ผู้สืบสกุลกษัตริย์คนแคระแกร็น ที่นำทุกคนมารวมกัน
โดยมีเป้าหมายที่จะกลับไปยึดถิ่นกำเนิดคืนมาจากมังกรไฟ ภายหลังที่ไม่มีเรื่องราวว่าใครกันแน่พบเจอมังกรไฟมานานกว่า 60 ปี ใบเสร็จรับเงินโบก็เลยต้องการร่วมการเสี่ยงอันตรายด้วย ถึงแม้ว่าธอรินจะคิดว่าใบเสร็จรับเงินโบไม่พร้อมจะจัดการกับอันตรายต่างๆได้ แม้กระนั้นเมื่อถึงเวลาเสี่ยงภัยจริงๆใบเสร็จรับเงินโบ แม้กระทั่งต่อสู้ไม่เป็น แต่ว่าใบเสร็จรับเงินโบมีความหลักแหลม รวมทั้งมีโชคช่วยอยู่ตลอด
ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้กานดาล์ฟดึงใบเสร็จรับเงินโบมาร่วมทีม ภาพยนตร์ เดอะ ฮอบบิท และก็การเสี่ยงภัยของกลุ่มคนแคระแกร็นกับ 1 บิดามดและก็ 1 ฮอบบิทก็เริ่มขึ้น แต่ว่าก็มีฉากพบตัวประหลาดและก็ฉากต่อสู้สลับกันบ้างเพื่อไม่ให้น่าระอากระทั่งเกินความจำเป็น ส่วนตัวมีความคิดว่าภาคถัดไปจะมีฉากต่อสู้ที่มากกว่านี้เนื่องจากว่าได้เกริ่นนำทั้งหมดทุกอย่างไว้ภายในภาคนี้แล้ว
-
ดารานำของเรื่อง มาร์ติน จอห์น คริสโตเฟอร์ ฟรีแมน (Martin John Christopher Freeman) เล่นบทเป็น ใบเสร็จรับเงินโบ แบ๊กกิ้นส์
จะต้องออกสตาร์ทไว้ก่อนว่าที่จริงแล้วส่วนตัวมิได้ติดอกติดใจตรีภาคของฮอบบิทมากมายเสมอกันกับ The Lord of The Ring สักเท่าไหร่ เนื่องด้วยตัวนิยายของ The Hobbit นั้นกล่าวได้ว่าความยาวสั้นกว่า หนังสือ 1 ภาคของ The Lord of the ring ด้วยไป การนำหนังมายืดขยายให้มีความยาวถึง 3 ภาคนั้นเหตุผลประการเดียวที่ฟังขึ้นที่สุดก็คือการที่สตูดิโออาศัยบุญเก่าแล้วก็ชื่อของปีเตอร์ แจ็คสัน ผู้กำกับสำหรับการเอามาหาเลี้ยงชีพเพื่อโกยรายได้ให้กับสตูดิโออย่างวอร์เนอร์นั่นเอง
พวกเราเห็นด้วยเรื่องความเพลิดเพลินของหนัง แฟรนชายส์ปานกลางโลก (ถึงแม้ว่าตนเองจะแอบสัปปะหขี้ตระหนี่ตลอดทั้งสองภาคก่อนที่จะผ่านมาก็ตามที) ซึ่งถ้าหากว่าเอามาเปรียบเทียบกับสามภาคมหากาพย์แหวนครอบครองโลกแล้ว ฮอบบิทก็ล้วนด้อยกว่าในทุกๆด้านไม่ว่าจะเป็นความเพลิดเพลินหรือเนื้อหารายละเอียดของตัวเรื่องเองที่คาราวานที่แหวนนั้นจะมีเนื้อหาสำหรับการทำภารกิจมากยิ่งกว่า “การเสี่ยงภัยของใบเสร็จรับเงินโบ แบ๊กกินส์”
ภาพยนตร์เรื่อง “The Hobbit: The Desolation of Smaug”
เป็นการเสี่ยงภัยของนักแสดงนำ ใบเสร็จรับเงินโบ แบ๊กกินส์ ที่สม่ำเสมอมาจากเมื่อครั้งที่เขาเดินทางร่วมกับบิดามดแกนดัล์ฟรวมทั้งคนเล็กแกร็นอีกทั้ง 13 ผู้ที่นำโดย ธอริน โอเคนชีล์ด เพื่อภารกิจครั้งยิ่งใหญ่ของการทวงคืนช่องเขาโดดเดี่ยวรวมทั้งอาณาจักรเอเรบอร์ของคนแคระแกร็นที่หายไป ภาพยนตร์ เดอะ ฮอบบิท ภายหลังรอดพ้นมาได้เมื่อตอนเริ่มอย่างสุดคาดหมาย เหล่าภาควิชายังคงมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก
กลางทางได้เจอกับโบออนผู้แปลงผิวได้รวมทั้งฝูงแมงมุมยักษ์ในป่าเมิร์กวูดที่อันตราย ข้างหลังหลบซ่อนจากการเช็ดกเอล์ฟป่าที่อันตรายจับไว้ พวกคนแคระแกร็นเดินทางไปยัง Lake-town กระทั่งเจอกับซอกเขาว้าเหว่ที่พวกเขาจะต้องเจอหน้ากับความอันตรายที่ทารุณโหดร้ายสูงที่สุดอย่างมังกรสมอว์ก ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวกว่าสิ่งอื่นใด มันมิได้มาทดลองความอาจหาญที่อยู่ในตัวพวกเขาเพียงแค่นั้น แต่ว่ายังรวมทั้งมิตรภาพของพวกเขาแล้วก็ความฉลาดที่การเสี่ยงอันตรายอีกด้วย